วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

สอนลูกให้ทำงานบ้าน

ธิดา พิทักษ์สินสุข


ภาพจาก http://www.simplemom.net/

                งานบ้าน” คุณได้ทำบ้างหรือไม่คะ ยุคสมัยนี้ในบ้านเรา...เมืองไทยอันเป็นที่รัก ถ้าพูดถึง”งานบ้าน”คงจะแบ่งคนได้เป็นสองพวกใหญ่ๆ พวกแรก ทำงานบ้านเอง กับพวกที่สองไม่เคยทำงานบ้านเอง ก็ไม่แน่ใจนักนะคะว่าพวกไหนจะมากกว่ากัน แต่ดูเหมือนว่าสำหรับคนในเมืองพวกที่สองดูน่าจะมากกว่า แม้ว่าคนสมัยนี้จะนิยมแยกออกมาอยู่เอง
แต่ก็มักจะไม่ทำงานบ้านเอง เพราะยุคนี้เป็นยุคของมืออาชีพ มีแม่บ้านมืออาชีพให้บริการอยู่ทั่วหัวระแหง ก็คงเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้ทำงานบ้าน และลูกๆก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในชีวิตจากการช่วยทำงานบ้าน คุณพ่อคุณแม่ลองมาดูแลบ้านเองและสอนลูกๆให้ช่วยทำงานบ้านกันบ้างดีกว่านะคะ

บทเรียนชีวิต 101


ภาพจาก http://www.hobomama.com/

           “งานบ้าน” เป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นองค์ประกอบสำคัญของการดำรงชีวิต เป็นเรื่องที่จะหลีกเลี่ยงหรือละเลยไม่ได้ แต่ไม่ต้องทำเอง...ได้! นั่นก็เลยเป็นเหตุให้คนหลายๆคนเสียโอกาสที่จะได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะสำคัญในการดำรงชีวิต ทักษะที่ว่านี้ไม่ใช่แค่การทำงานบ้านเป็นนะคะ แต่จากการได้ช่วยทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก เด็กจะได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝนคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่จะมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในวันข้างหน้า
          การช่วยทำงานบ้านตั้งแต่เด็ก เด็กจะได้ฝึกและปลูกฝังสิ่งดีๆหลายๆอย่าง สิ่งที่เด็กจะได้ติดตัวไปจนโตและจะเป็นประโยชน์กับชีวิตเป็นอย่างมากก็คือ  การเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ การรู้จักพึ่งพาตนเอง และมีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น นอกจาก นั้นยังได้เรื่องการรักความสะอาดและความมีระเบียบด้วยนะคะ การที่จะสอนให้เด็กรู้จักช่วยทำงานบ้านสามารถสอนกันได้ตั้งแต่เล็กๆเลยค่ะ ช่วงแรกๆเด็กอาจจะยังช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่การให้เด็กๆเข้ามามีส่วนร่วมจะสอนเด็กในเรื่องความมีน้ำใจ ในเรื่องการรับผิดชอบ รวมถึงเริ่มฝึกทักษะพื้นฐานง่ายๆ เช่นการจัดเก็บของเล่นลงในตะกร้าให้เรียบร้อย แล้วเราค่อยๆสอนมากขึ้น มอบหมายงานให้มากขึ้น ตามอายุที่มากขึ้น การให้ช่วยงานตั้งแต่เล็กและอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เด็กคุ้นชิน และรู้สึกว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนเราต้องทำ ต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นด้วยนะคะ ระวังอย่าทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำงานบ้านเพราะได้ยินคุณพ่อคุณแม่บ่นหรืออิดออดกับการต้องทำงานบ้านเชียวนะคะ


วิธีสอนให้ลูกช่วยทำงานบ้าน
          พูดถึง”งานบ้าน”สำหรับบางครอบครัวก็ดูเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับบางครอบครัว
”งานบ้าน”ก็ดูจะเป็นภาระหนักอึ้ง และการสอนลูกให้ช่วยทำงานบ้านก็เช่นกัน สำหรับบางบ้านก็ง่ายและเป็นไปอย่างราบรื่น แต่สำหรับบางครอบครัวการที่จะสอนลูกให้รู้จักช่วยทำงานบ้านก็แสนจะยากเย็น วิธีที่เราจะสอนและโน้มน้าวลูกให้รู้จักช่วยทำงานบ้านก็มีต่างๆนานา ลองมาดูกันนะคะเผื่อว่าอาจจะเกิดแนวคิดที่เหมาะที่จะนำไปใช้ในครอบครัวของคุณ

ภาพจาก http://www.masterfile.com/

1.      เริ่มตั้งยังเล็ก คุณพ่อคุณแม่ควรมอบหมายให้ลูกรับผิดชอบงานบางอย่างตั้งแต่ยังเด็ก เด็กเล็กๆ สองถึงสามขวบก็สามารถจะเริ่มสอนได้แล้วนะคะ
และเด็กในวัยนี้ก็ชอบที่จะช่วยงานผู้ใหญ่และจะดีใจมากถ้าหากผู้ใหญ่ยอมให้เขาช่วย ใช้โอกาสนี้มอบหมายงานเล็กๆง่ายๆให้พวกเขาได้ช่วยทำ เช่นการช่วยกันเก็บของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ ช่วยถือของเล็กๆน้อยๆ แล้วเมื่อลูกเริ่มโตขึ้นเราก็ค่อยๆเพิ่มงานและมอบหมายความรับผิดชอบให้สมกับวัยของลูก
2.      ทำให้ดู เด็กต้องการรู้อย่างแน่ชัดว่าเราคาดหวังให้พวกเขาทำอะไร และที่สำคัญต้องทำให้เห็นว่างานที่เรามอบหมายนั้นทำอย่างไร สำหรับเด็กเล็กช่วงแรกๆเราอาจจะต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วจึงค่อยๆถอยห่างเมื่อเขาโตขึ้นหรือคุ้นชินกับงานมากขึ้น
3.      สอนทีละเรื่อง ค่อยๆสอนให้ลูกทำงานทีละอย่าง สอนวิธีทำตั้งแต่ต้นจนจบ ติดตามจนแน่ใจว่าเขาทำได้ และทำได้อย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่จะสอนงานอื่นต่อไป เด็กเล็กจะเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก หากเราพยายามจะสอนพวกเขาหลายๆเรื่องพร้อมๆกัน  
4.      แจกแจงขั้นตอนการทำงาน การสอนงานให้เด็กๆควรจะแจกแจงขั้นตอนและรายละเอียดให้ชัดเจน เช่นการมอบหมายให้ลูกดูแลห้องนอนตัวเอง ก็ให้รายละเอียดของงานที่จะต้องทำตั้งแต่การเก็บเตียงพับเก็บผ้าห่มให้เรียบร้อย เก็บของเล่นหรือของใช้ให้เข้าที่เข้าทาง ถ้าเด็กโตหน่อยก็อาจจะเริ่มทำความสะอาดเอง อาจจะเริ่มจากส่วนเล็กๆแค่บนโต๊ะหรือชั้นวางของ แล้วค่อยๆเพิ่ม เมื่อโตขึ้นก็รับผิดชอบการปัดกวาดเช็ดถูเองทั้งหมด
5.      อธิบายให้ลูกฟัง ลูกควรได้รับรู้ถึงประโยชน์และความสำคัญของการช่วยทำงานบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่างานบ้านเป็นงานที่สมาชิกในครอบครัวทุกๆคนต้องช่วยกันทำและช่วยกันรับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินไปของชีวิตในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข
6.      ปรับเปลี่ยนบทบาทและหน้าที่ให้เหมาะสมกับวัยของลูก เมื่อลูกโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องปรับเปลี่ยนหรือมอบหมายงานที่มากขึ้นหรือสำคัญมากขึ้น เด็กจะรู้สึกท้าทาย และจะรู้สึกภูมิใจหากสามารถทำได้สำเร็จ แต่ต้องระวังนะคะ มอบหมายงานให้เหมาะกับวัยและความสามารถของลูกเท่านั้นนะคะ อย่าให้มากหรือน้อยเกินไป
7.      จัดทำตารางการทำงานและผู้รับผิดชอบ รวมทั้งการให้รางวัล ถ้าลูกโตพออาจจะชวนกันทำตารางการทำงานและผู้รับผิดชอบ รวมทั้งการบันทึกผลการทำงาน แล้วก็ช่วยกันตั้งเกณฑ์ของการได้รับรางวัลรวมถึงการตั้งรางวัลด้วย รางวัลที่ว่าอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ อาจจะเป็นการได้ไปเที่ยวด้วยกัน การได้นอนดึกมากขึ้นในวันหยุด สำหรับเด็กเล็กเราอาจประเมินและให้รางวัลกันรายวัน แต่ถ้าเด็กโตก็อาจจะเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน
8.      กำหนดบทลงโทษหากไม่รักษาหน้าที่ สอนให้ลูกรู้ถึงผลการกระทำของตน เช่น ถ้าลูกลืมเก็บรถจักรยานเข้าที่ทุกวัน ทุกวัน ก็อาจจะถูกทำโทษด้วยการไม่อนุญาตให้เอารถออกไปขี่ได้สองถึงสามวัน เป็นต้น
9.      อย่าจุกจิกจู้จี้ขี้บ่น มอบหมายงานและความรับผิดชอบให้เหมาะสมกับวัยของลูก อธิบายให้ชัดเจนถึงวิธีการทำงาน และตกลงกันถึงกฎกติกาของครอบครัว หากลูกไม่รักษาหน้าที่ก็อย่าใช้วิธีจิกบ่นให้ทำ แต่ใช้การลงโทษตามที่ได้ตกลงกันไว้
10. ชื่นชมลูก เมื่อลูกทำงานสำเร็จ รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย อย่าลืมแสดงความชื่นชมลูกด้วยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ควรดูที่ความพยายามของลูกที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย อย่าไปเน้นที่ผลของงานนะคะโดยเฉพาะกับลูกเล็กๆ
     
บทเรียนจากการทำงานบ้าน


ภาพจาก http://www.simplekids.net/

            เราคงคาดหวังให้ลูกเติบโตเป็นคนดี รู้จักรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพไม่ได้เลยนะคะ ถ้าพวกเขายังไม่สามารถรับผิดชอบและดูแลชีวิตของตัวเองได้ ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำงานบางอย่างที่ไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ และการรักษาหน้าที่ของตนก็จะทำให้เขาได้รับรางวัลหรือผลดีจากการกระทำนั้น เพราะ.....งานคือชีวิต ชีวิตต้องทำงาน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น